หมีคิดดัง: เที่ยวหลีเป๊ะสุดชิค เช็คอินท์ให้ครบ 15
"หลีเป๊ะ... มันปังอ่ะ ไปทั้งที ต้องไปให้ถึงนะ!" วันนี้หมีขอแนะนำ 15 กิจกรรมห้ามพลาดจากทริปหลีเป๊ะ รับรองว่าเพื่อนๆของคุณต้องอิจฉาแน่นอน
ก่อนอื่นเลย ขอแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคนที่ เมื่อต้นปี 2018 นี้เอง UNESCO ได้ ยกย่องให้ จ.สตูล เป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (Satun UNESCO Global Geopark) ที่เพรียบพร้อมไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติเดิมๆอยู่สูงมาก ซึ่งถือเป็นสเน่ห์ที่สามารถดึงดูดนึกท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ว่าแต่นักท่องเที่ยวเขาไปทำอะไรกันนะ แล้วเราจะไปทำอะไรดีถึงจะไปถึงเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล วันนี้หมีลิสมาให้แล้ว ไปชมกันเลย
1) ดูอาทิตย์ลับขอบฟ้า
หลีเป๊ะนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติค นักท่องเที่ยวมักจะมากันเป็นคู่ๆมีทั้งต่างชาติและคนไทย และแน่นอน กิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคู่รักที่ดูดดื่ม หรือไม่ว่ากับกลุ่มเพื่อนๆที่รู้ใจ คือการชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้านั่นเอง สถานที่ๆได้รับความนิยมมากที่สุด คือ หาดซันเซ็ท และ เมาเท่นรีสอร์ท สามารถเรียกตุ๊กๆจากที่พักของเพื่อนๆไปกันได้เลย
ข้อแนะนำ: อย่าลืมยากันยุง
2) นั่งเรือชมเกาะ
ขึ้นชื่อว่าจังหวัดสตูล ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างนึงของทะเลอันดามันนี้ คือการ นั่งเรือชมเกาะเล็ก เกาะน้อยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เกาะไข่ เกาะอาดัง-ราวี เกาะหินสวย และอีกมากมาย สำหรับราคาค่าเรือหางยาวอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทเท่านั้น อย่าลืมเผื่อเงินไปกันด้วยนะ
ข้อแนะนำ: ควรจัดทริปดำน้ำให้อยู่ในวันเดียว เพื่อความประหยัดที่แท้ทรู
3) ดำน้ำดูปะการัง
อย่างที่หมีได้เกริ่นไปข้างต้นว่าจ.สตูลนั้นมีธรรมชาติที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ดังนั้นเพื่อนๆสามารถดำน้ำดูปะการังได้เกือบทุกเกาะที่หมีได้แนะนำไป นอกจากนั้น ไต๋เรือหลายๆคนยังมีหมายดำน้ำในใจ ยังไงอย่าลืมตีซี้กับไต๋เรือล่ะ อาจจะได้ดำในจุดที่แปลกๆ
ข้อแนะนำ: เห็นสวยๆแบบนี้แต่คมใช้ได้เลย อย่าลืมหารองเท้าเปียกน้ำได้ใส่ลงไปด้วย
4) ดูโชว์ควงไฟ
เหนื่อยกับกิจกรรมวันแรกกันหรือยัง? ตกค่ำแล้วอย่าลืมมาเดินเล่นที่หน้าหาดล่ะ มีร้านอาหารนั่งชิวรับลมทะเลพร้อมชมการแสดงควงกระบองไฟยาวทั้งหาดเลย
ข้อแนะนำ: ระวังขบวนคู่รักมากมายที่เดินจูงมือกัน อาจอิจฉาและหมดความบันเทิงได้
5) ส่องฝรั่งตามหาด
บอกเลยว่าสำหรับสาวๆแล้วมัน @#!@I$I!$O!! มากกกกๆ ฝ.แต่ละคนหุ่นจะดีอะไรกันเบอร์นั้น ไม่ใช่แค่สาวๆนะ สำหรับหนุ่มๆก็สามารถไปหาอาหารตาได้เช่นกัน บอกเลยว่าแต่ละคน แซ่บ!
ข้อแนะนำ: พกแว่นดำและทิชชู่ไปด้วย
6) แวะชมเกาะไข่
ชื่อของเกาะไข่นั้นมาจากสมัยก่อน จะมีเต่าทะเลมาวางไข่ที่หาดทรายบนเกาะนี้จำนวนมาก และก็เพี้ยน ย่อเสียงมาเรื่อยๆ เกาะไข่เต่า... เกาะเต่าไข่... เกาะไต่เข่า... และสุดท้ายมาเป็น "เกาะไข่" นั่นเอง (ไต๋เรือบอกมา) สำหรับการมาที่นี่ ส่วนใหญ่แล้ว เรือข้ามฟากไปหลีเป๊ะจะพามาแวะที่เกาะนี้เป็น Complementary จุดเด่นของเกาะนี้คือซุ้มประตูหินนั่นเอง
ข้อแนะนำ: เรือเทียบหาดแล้วให้รีบกระโดดลงไปเลย ไม่งั้นไม่ทันนักท่องเที่ยวคนอื่น
ปล. เรือข้ามฟาก ปากบารา-หลีเป๊ะ 800 บาท/คน
7) ชมหาดหินสวย
หากเหมาเรือหางยาวไปดำน้ำแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะหาดหินสวยเลยนะ หินที่นี่มีเอกลักษณ์มากๆ เวลาแห้งจะมีสำดำเทาเหมือนหินทั่วๆไป แต่เมื่อคลื่นซัดมาเมื่อไรจะสวยราวกับอัญมณีเลยแหละ
ข้อแนะนำ: เหมาะกับการถ่ายภาพชิคๆแนว Minimal สุดๆ
8) แวะชมเกาะอาดัง
หาดนี้จะมีลักษณะคล้ายกับหาดทั่วๆไป ทรายขาวละเอียด อยู่ในหมู่เกาะอาดัง-ราวี / ต่อข้อ 9 เลย
9) ถ่ายรูปขอนไม้หาดทรายขาว
หาดทรายขาว หมู่เกาะอาดัง-ราวี อยู่ห่างจากหาดอาดังไปแค่ 1 กม. เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีที่นั่งพักสำหรับนักท่องเที่ยว มีโต๊ะ ระเบียงไม้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งใต้ร่มเงา จึงเหมาะไปแวะนั่งพักทานข้าวกลางวันเป็นอย่างมาก สำหรับขาแรงสามารถเดินขึ้นไปชมจุดชมวิวผาชะโดได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็จะสามารถชมวิวได้แบบสุดลูกหูลูกตา ไกลไปถึงหมู่เกาะลังกาวีเลยทีเดียว
ข้อแนะนำ: ทานข้าวระวังลิงขโมย
10) ชิมโรตีร้านเตอร์บิลัง
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง!! ใช่แล้ว... ตกดึกหมีถึงเดินมาหาของว่างรองท้องที่ Walking street เพียงแห่งเดียวของเกาะหลีเป๊ะนี้ ได้ยินมาว่ามีโรตีที่เลื่องชื่ออยู่ในตลาดนี้นามว่า "เตอร์บิลัง" ซึ่งถือว่าเป็น OTOP ของเกาะนี้เลยด้วย แว๊บแรกที่เจอร้านคือ คนจะเยอะไปไหน นักท่องเที่ยวต่อคิวคือเยอะมาก สำหรับรสชาติ สำหรับหมีแล้วคิดว่าเฉยๆนะ แต่ที่เด็ดจริงๆคือเครื่องดื่มที่จะมีความหอมมันเป็นพิเศษ ไม่ควรพลาด
ข้อแนะนำ: ระวังร้านลอกเลียนแบบ ร้านไหนคนเยอะสุด ร้านนั้นแหล่ะ
11) ถ่ายรูปซิลลูเอท
ทริปชิคๆมักต้องมากับภาพชิคๆเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือภาพแนวซิลลูเอทสุดอาร์ท ซึ่งเวลาพระอาทิตย์กำลังตกนี่แหละเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะเป็นสถานที่ๆเดียวกับข้อ (1) คือ หาดซันเซ็ท และ เมาเท่นรีสอร์ท นั่นเอง
ข้อแนะนำ: อย่าลืมเตรียมพร๊อบเก๋ๆเช่น หมวก กล้อง ไปด้วยล่ะ
12) นั่งซาเล้งรอบเกาะ
เกาะหลีเป๊ะนั้นเป็นเกาะเล็กๆ มีพื้นที่ใช้สอยเพียง 4 ตารางกิโลเมตร การสัญจรส่วนใหญ่จะใช้ซาเล้งกัน โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากที่สุดแค่ 3 คนเท่านั้น มีรถกระบะบ้างเป็นส่วนน้อย ซึ่งเจ้านี่แหละจะเป็นพาหนะชั้นยอดที่จะพาเพื่อนๆไปทัวร์รอบเกาะ อัตราเหมาๆอยู่ที่ประมาณ 400 บาท/ชม.
ข้อแนะนำ: ไม่ควรนั่งหลังเพิ่งทานข้าวเสร็จ เพราะอาจทำให้อาหารรวมตัวกันและออกมาได้
13) ถ่ายรูปกับหลักกิโลเมตร
Walking Street นั้น หากเดินจากหน้าหาดเข้าไปด้านในจนสุดถนน จะพบกับหลักกิโลเมตรของเกาะหลีเป๊ะอยู่ด้านขวาก่อนลงเนิน แน่นอนว่าการได้ถ่ายรูปคู่หวานแหวกับหลักกิโลเมตรนี้ จะเป็นเครื่องยืนยันว่าเพื่อนๆมาถึงแล้วนั้นเอง
ข้อแนะนำ : แสงค่อนข้างมืด มาถ่ายตอนกลางวันน่าจะสวยกว่า
14) แวะทานบะกุ๊ดเต๋
ของขึ้นชื่อประจำภาคใต้ของเรานี่เอง กลับฝั่งแล้วก็อย่าลืมหาร้านบะกุ๊ดเต๋เด็ดๆซดร้อนๆให้สร่างก่อนเดินทางกลับล่ะ ด้วยเครื่องเทศและน้ำซูปสูตรดั้งเดิมของภาคใต้ จะทำให้กระปรี้กระเปล่าได้ทั้งวันเลย
ข้อแนะนำ: หากบินกลับจากหาดใหญ่ จะมีร้านดังๆเยอะมาก สำหรับในรูปคือร้าน อาม่าติ่มซำ
15) ชิมแกงส้มเผ็ด แสบตับ
สั่งแกงส้มได้แกงเหลือง!?!? ข้อนี้หมีอยากเพิ่มเองเพราะแกงส้มของที่นี่รสชาติเหมือนแกงเหลืองของคนกรุงดีๆนี่เอง ที่เด็ดกว่านั้นคือรสชาติเผ็ดที่โดดดดดมากๆ สั่ง 3 ที่ โดด 3 ที่ (หมีนะที่โดด) สำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ดอย่างหมีเจอเข้าไปอาจเกิดอาการ ซ่า หูชา คันหัว ได้
ข้อแนะนำ: สั่งเผ็ดน้อยก็ไม่มีผล สั่งน้ำเพิ่มดีกว่า
-------------
สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากไป แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มแพลนยังไง หมีขอแนะนำโปรแกรมเที่ยวหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืน โดย Universal Travel เพียง 15,900 บาท/ท่าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร: 02-645-3542 / 081-171-7159
-------------
ขอขอบคุณที่พักประจำทริปนี้ บุหงารีสอร์ท เกาะหลีเป๊ะ พักหรู อยู่สบาย ห้องกว้างขวาง ติดท่าเทียบเรือหลีเป๊ะ
ขอขอบคุณ Sure2Trips Platform B2B booking สัญชาติไทย
ขอขอบคุณ สตูล ปากบารา สปีดโบ๊ท คลับ
ขอขอบคุณ Media & Blogger Club