หมีคิดดัง รีวิวท่องเที่ยว: "เสียมราฐ" - ย้อนรอยหนังดัง Tomb Riders กับ 6 ที่เที่ยวห้ามพลาด
- patcharapon tanprasitthikul
- 21 ก.พ. 2560
- ยาว 1 นาที
เมื่อพูดถึงประเทศกัมพูชาแล้ว หลายๆท่านคงนึกถึงเมืองเสียมเรียบ หรือเสียมราฐ ซึ่งเป็นเมืองที่กาลเวลาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรเมืองนี้ได้เลยสถาปัตยกรรม วัตถุโบราณต่างๆยังคงถูกทิ้งไว้ดังเช่นอดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่แปลกใจเลยทำไมเมืองนี้ถึงได้กลายเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังดังระดับฮอลิวูดหลายๆเรื่อง หนึ่งในสถานที่ๆติด 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั่นก็คือ แท่น... แท๊น....

คนจีน!!!... เอ้ย... ไม่ใช่!

แต่เป็น... นครวัดนั่นเอง!
สำหรับการเดินมายังเมืองเสียมราฐนี้ ผมเลือกใช้สายการบินไทยสมายล์ค่าตั๋วอยู่ที่ประมาณ 5,000 กว่าบาท มีอาหารว่างอุ่นร้อนไว้บริการ น้ำหนักกระเป๋า 20 กก. และสามารถสะสมไมล์ ROP ได้ (*ควรเลี่ยงการเดินทางช่วงวันหยุดและเทศกาล เพราะค่าตั๋วอาจขึ้นไปเหยียบหมื่นเลยทีเดียว)

ออกเดินทางได้...
สาเหตุที่ผมเลือกใช้สายการบินนี้ ส่วนตัวแล้วชอบการบริการ ชอบรอยยิ้มของลูกเรือ สมกับชื่อน้องยิ้มๆจริงๆ ราคาอาจจะสูงกว่าสายการบินโลว์คอสนิดนึง แต่หากบวกๆค่านู้นค่านี้แล้วราคาไม่ทิ้งกันเท่าไรเลยครับ และครั้งนี้ผมเดินทางเวลาเช้า 7:25 น. มีบริการอาหารว่าง ทำให้สามารถข้ามมื้อเช้า ประหยัดอีก 1 มื้อไปได้แบบสบายๆ
นั่งเครื่องกันก้นยังไม่ทันร้อน (ประมาณ 50 นาที) น้องแอร์วิ่งบริการกันราวกับนักแข่งมาราธอน และแล้วก็แลนด์ดิ้งที่เสียมราฐ...
สำหรับเมืองนี้ใช้เงินสกุล USD เป็นหลัก เนื่องจากค่าเงินของกัมพูชาเองอ่อนมากๆ ผู้คนเป็นมิตรสุดๆ เป็นกันเอง ส่วนการเดินทางสัญจรนั้นสามารถเรียกตุ๊กๆได้ทุกหนแห่ง มีเยอะยิ่งกว่าแทกซี่ในกรุงเทพฯอีก ค่าบริการอยู่ที่คนละ 1USD ต่อท่าน ต่อเที่ยวเท่านั้น

ชมบรรยากาศการเดินทางกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว มาเริ่มกันเลย
6 สถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเสียมราฐ
1) นครวัด (Angor Wat) - เหมาะที่สุดสำหรับการรับชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า มองดูเงาสะท้อนของอารยธรรมโบราณผ่านผืนบึงน้ำ มีแสงอาทิตย์สีส้มอ่อนๆเป็นพื้นหลังของตัวอาคาร ความอลังการของสถานที่นี้ ผมไม่สามารถเล่าเรื่องออกมาเป็นภาพได้หมด งั้นขอเล่าประวัติการสร้างออกมาเป็นข้อๆแทนนะ
- เริ่มสร้างเมื่อพุทธศตวรรษที่ 17 หรือกว่า 800 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยพระเจ้าสุริยะวรมันที่สอง
- กินพื้นที่มากกว่า 1,200 ไร่
- การขนส่งหินใช้ช้างกว่า 40,000 เชือก (มีช้างล้มตายกว่า 2,000 ตัว) โดยหินทั้งหมดขนมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตร และสมัยนั้นไม่มีรถ
- เฉพาะโครงสร้างใช้คนนับหมื่นและกินเวลากว่า 100 ปี
- เฉพาะงานแกะสลักใช้ช่างแกะสลักกว่า 5,000 คนและกินเวลากว่า 40 ปี
เห็นแบบนี้แล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมสถานที่นี้ถึงได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลก

แสงอาทิตย์ฉาบซากมรดกโลกสะท้อนผืนน้ำ สวยใช่ม้า

บริเวณที่กิ๊บเก๋เหมาะสำหรับถ่ายภาพมีเยอะเลยล่ะ


2) ปราสาทหินเบ็งเมเรีย - ลึกเข้าไปในป่าใหญ่เชิงเขาพนมกุเลนมีปราสาทซึ่งหลับไหลอยู่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ซึ่งวัดนี้สร้างตั้งแต่ก่อนยุคนครวัด ถือได้ว่าเป็นวัดแรกในเสียมราฐเลยก็ว่าได้ เมื่อถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ธรรมชาติก็เริ่มทวงคืนพื้นที่ของมัน ต้นไม้เข้ามาโอบรัดตัวอาคาร ทำให้พังล้มลงมาระเนระนาดมาเป็นอย่างที่เห็น

ผมเรียกวัดนี้ว่าวัดคิทแคทชาเขียว เหมือนไหมล่ะ ^^

สถานที่ของจริงนั้นขลังมากๆ ภายในจะมีทางเดินซึ่งผุพังอยู่ สามารถเดินเข้าไปเพื่อชมได้ครับ

เมื่อเข้าไปภายในทางเดิน จะเห็นเส้นทางที่ผู้คนสมัยก่อนใช้สัญจรกันภายในตัวปราสาท ซึ่งของจริงนั้นมืดสนิท

และเมื่อกลับออกมามองไปบนยอดเส้นทางที่เพิ่งเดินผ่านไปจะเห็นยอดที่พังทะลายลงมาแบบนี้

กลับออกมาสู่ด้านนอก พร้อมที่จะเดินทางไปที่อื่นต่อ

3) ปราสาทตาพรหม - ฉากๆหนึ่งจากเรื่อง Tomb Raider นำแสดงโดยแองเจอลิน่า โจลี่...40 นาทีจากตัวเมือง มีปราสาทซึ่งถูกทิ้งร้างสภาพผุพังอยู่ในป่าขนานนามว่าปราสาทตาพรหม ปราสาทนี้มีต้นไม่ใหญ่ที่เห็นได้ชัดมากมาย ต้นสมพงษ์ หรือ Spung ซึ่งถือว่าเป็นเพชรฆาตสำหรับปราสาทแห่งนี้เลยทีเดียว ต้นไม้เหล่านี้เกิดมาจากนกซึ่งขับถ่ายเมล็ดพืชลงมา เมื่อต้นไม้เติบใหญ่ รากของต้นสมพงษ์นี้จะชอนไชไปตามชั้นกำแพง หลังคา โอบรัดตัวปราสาทดังที่เห็นในภาพ และทำให้ปราสาทแห่งนี้พังลงมา กว่าจะได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลามากกว่า 287 ปีเลยนะ นอกจากนี้ ป่านี้ยังมีนกแก้วมากมายคอยร้องเพลงให้นักท่องเที่ยวได้ฟังอยู่บนยอดไม้ด้วยล่ะ

ฉากนี้ไงที่แองเจอลิน่า โจลี่มายืนสวยอยู่ในหนังเรื่อง Tomb Raider

4) หมู่บ้านลอยน้ำ โตนเลสาป - หมู่บ้านชาวประมงทะเลสาปโตน หรือที่คนกัมพูชาเรียกกันติดหูว่าโตนเลสาป เป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งหากไม่แวะชมจะถือว่ามาไม่ถึงกัมพูชาเลยทีเดียว โดยการเดินทางสามารถไปได้ด้วยเรือเท่านั้น(เฉพาะในหน้าน้ำ) ภายในหมู่บ้านจะมีสังคมเล็กๆเช่น ร้านค้า โบสถ์ โรงเรียน สนามกีฬา บ้านชาวประมง โดยจุดเด่นนั้นคือบ้านทุกหลังจะลอยอยู่บนน้ำเพราะในหน้าฝนต้นไม่ที่เห็นในภาพจะอยู่ใต้น้ำทั้งหมด ถือได้ว่าเป็นสังคมช่วยเหลือกันขนาดเล็กๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และเมื่อได้ปลาจะกลับขึ้นฝั่งใหญ่เพื่อนำปลาไปขายและซื้อสินค้าเกษตรกลับมาเข้าหมู่บ้าน

คุณป้าพายมาน้องมาส่งรอยยิ้มให้ (อ้าว... โดนไปเหรียญนึง)

ภาพบรรยายกาศการอยู่อาศัยชาวประมงที่สร้างบ้านลอยอยู่บนน้ำ เป็นจุดเด่นของหมู่บ้านนี้เลย

5) ปราสาทพนมบาเค็ง - หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นกันที่นครวัดแล้ว หากใครไม่ได้มาชมพระอาทิตย์ตกที่ปราสาทแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงเสียมราฐเลยทีเดียว ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาพนมบาเค็งที่มีความสูง 75 เมตร การเดินทางจากพื้นขึ้นสู่ยอดเขาต้องเดินเท้าเท่านั้น โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที และหากต้องการจับจองที่เพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ตก แนะนำว่าควรมาแต่เนิ่นๆ มิเช่นนั้นอาจต้องรอคิวเพื่อขึ้นตัวปราสาทนานถึง 20 นาที

จุดเล็กๆบนยอดปราสาทนั้นคือฝูงนักท่องเที่ยวกำลังจับจองพื้นที่เพื่อชมพระอาทิตย์ตก


6) ตลาดกลางคืน - ตลาดแห่งนี้เป็นสีสันยามค่ำคืนของเมืองเสียมราฐเลยก็ว่าได้ หากเปรียบเทียบกับ Night Market ของเชียงใหม่แล้วต้องบอกเลยว่าที่นี่ใหญ่กว่าอีก มีการแบ่งโซน กิน ช๊อป ดื่ม ออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด สำหรับใครที่สันทัดโซนไหนก็สามารถแวะชมไว้ซื้อกันได้ตามสบายเลยครับ สำหรับผม ขอปิดท้ายวันที่แสนเหนื่อยล้าที่นี่เลย... โซน Pub street!



หากเพื่อนๆถูกใจบล็อคนี้ สามารถกด like กด follow ผมได้ที่เพจหมีคิดดัง : www.fb.com/mheekiddung นะครับ ^^
Comments